หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การปลูกถั่วงอกไร้ราก


ถั่วงอกตัดราก นวัตกรรมลดสารพิษ
                "ถั่วงอก" เป็นผักเศรษฐกิจ ชนิดโตไว ขายดี เพราะใช้เวลาปลูก และโตเต็มที่แค่เพียง 2-3 วัน ก็สามารถนำไปขายได้  ซึ่งปัจจุบันคนไทยนิยมบริโภคถั่วงอกกันมาก โดยนำมาเป็น ส่วนประกอบของอาหารหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ผัดไทย หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ เกาเหลา ต้มจืด ฯลฯ เพราะถั่วงอกมีราคาถูก และมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าผักอีกหลายๆ ชนิด นั้นเอง
     
             จากความต้องการของตลาดที่มีค่อนข้างสูง ทำให้เกษตรกร ผู้ปลูกหันมา ใช้สารเคมีจำพวก สารเร่ง สารอ้วน สารฟอกขาว (โซเดียม ไฮโดรซัล ไฟต์) สารคงความสด(ฟอร์มาลิน) ซึ่งสารเหล่านี้ กระทรวง สาธารณสุข ไม่อนุญาตให้ใช้ผสมในอาหาร เพราะล้วนเป็นสารที่มีพิษ ต่อร่างกายสูง หากรับประทานเข้าไป อาจมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร ระบบหายใจ ระบบประสาท และอาจจะทำให้เสียชีวิตได้
           
          ผลการวิจัยตัวอย่างของกระทรวงสาธารณสุข ตามท้องตลาด จะพบสารเคมี ที่ตกค้างในถั่วงอกมากที่สุด เพราะถั่วงอกเป็นพืช ที่ดูดซับสารพิษได้ดีกว่าพืชชนิดอื่น ส่วนใหญ่ตรงบริเวณรากจะพบสาร ฟอกขาวมากที่สุด เนื่องจากธรรมชาติของถั่วงอกรากจะดำ เกษตรกรจึงมักใช้สารฟอกขาว เพื่อทำให้ถั่วงอกขาวดูน่ารับประทาน
       
              "ชมรมผู้สูงอายุวัดประทุมเมฆ"และ ศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรชุมชน จ.สุรินทร์” ได้ตระหนักถึงพิษภัยที่จะมีต่อผู้บริโภค เป็นสำคัญ จึงได้นำวิธีการปลูกถั่วงอกปลอดสาร นั่นคือ"วิธีการเพาะถั่วงอกตัดราก" มาเพาะจำหน่ายและเผยแพร่ โดยเน้นเรื่อง"สะอาด ปลอดภัย ไร้สารพิษ 
       
 

วิธีการเพาะ
            1. เตรียมวัสดุสำหรับเพาะ ได้แก่ กาละมัง เจาะรูระบายน้ำถี่ๆ / ตะแกรงพลาสติก / กระสอบป่าน / กระสอบปุ๋ยใส่ทราย / ผ้าใบหรือผ้าพลาสสิกสีเข้มสำหรับปิดทับไม่ให้แสงเข้า
            2.นำเมล็ดถั่วเขียวคัดเลือกเอาแต่ เมล็ดที่สมบูรณ์ แล้วล้างด้วยน้ำทำความสะอาด เทน้ำทิ้งประมาณ 2-3 ครั้ง จนกระทั่งหมดแป้ง จึงนำเมล็ด แช่น้ำอุ่นประมาณ 6-8 ชั่วโมง (น้ำอุ่น คือน้ำ เดือด 1 ส่วน และน้ำธรรมดา 3 ส่วน)

          
3. หลังจากการแช่น้ำอุ่นนาน 6-8 ชั่วโมงแล้ว นำเมล็ดมาล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง
           4.โรยเมล็ดลงบนตะแกรงพลาสติก ที่มีกระสอบป่านรองไว้ล่างสุดใน กะละมัง ที่เจาะรูระบายน้ำ เกลี่ยบางๆ ให้เสมอ
            5.ใช้กระสอบป่านทับข้างบน
            6.รดน้ำให้ชุ่ม
            7.ใช้กระสอบปุ๋ยใส่ทรายวางทับข้างบนให้หนักประมาณ 3-4 กิโลกรัม ปิดทับด้วยผ้าใบ หรือผ้าพลาสติกสีทึบกันแสงเป็นชั้นสุดท้าย (เปิดผ้าคลุมแล้วรดน้ำให้ชุ่มวันละ 3 ครั้ง (เช้า เที่ยง เย็น)
            8.ครบ 3 วัน (รดน้ำครบ 7 ครั้ง) ถั่วงอกจะโตได้ขนาด เปิดผ้าคลุมออก ยกึ้นจากกาละมังทั้งตะแกรง
            9.ใช้ มีดตัดถั่วงอกบนตะแกรง ใส่ลงในกาละมังใส่น้ำสะอาด ช้อนเปลือกถั่วเขียวออก(เก็บไว้ทำปุ๋ยหมัก) นำขึ้นจากน้ำบรรจุถุง พร้อมจำหน่าย (กิโลกรัมละ 25 บาท โดยถั่วเขียว 1 กิโลกรัม จะได้ถั่วงอก 5 กิโลกรัม)
พลังแห่งชีวิต
ถึง แม้ว่าถั่วงอก จะเป็นเพียงผักราคาถูก ๆ หาง่าย แต่ก็มีคุณค่าทางโภชนาการ และประกอบอาหารได้หลากหลาย แม้จะมีลักษณะเปราะบาง อ่อนแอ บีบเพียงเบาๆ ก็แตก แต่เมื่อรวมพลังกันจำนานมาก ก็สามารถที่จะเจริญงอกงาม และแข็งแรงจนกระทั่งสามารถยกถุงทรายที่มีน้ำหนัก ๓-๔ กิโลกรัมขึ้นได้ เปรียบเหมือนกระบวนการทำงาน ของภาคประชาชน แม้จะอ่อนแอด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่เมื่อรวมพลังกันด้วยมุ่งมั่นและมีความหวังที่จะพึ่งตนเองให้ได้อย่าง ยั่งยืน ก็สามารถที่จะผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้อย่างง่ายดายด้วยพลังชีวิต
เปรียบเทียบความแตกต่างของ
ถั่วงอกไร้สารตัดราก ของชมรมผู้สูงอายุวัดประทุมเมฆ
ถั่วงอกไร้สารตัดราก
ถั่วงอกทั่วไป
๑.ลำต้นตั้งตรงสม่ำเสมอ แข็งแรง รากยาว (ตัดรากก่อนจำหน่าย)
๑.ลำต้นอวบอิ่มหัวเล็กรากสั้น เพราะใช้ฮอร์โมนเร่งให้โตเร็ว
๒.เก็บไว้ได้นาน ๕-๗ วันโดยไม่มีกลิ่น และยังคงสภาพเดิม
๒. เก็บไว้นานไม่ได้ จะมีกลิ่นและมีสีดำ ช้ำง่าย
๓.ไม่ต้องเสียเวลาเด็ดรากทิ้งก่อนนำไปปรุงอาหาร เพราะได้มีการตัดรากทิ้งแล้ว
๓.ต้องเสียเวลาเด็ดรากทิ้งก่อนนำไปประกอบอาหารเพื่อความสวยงาม และความเรียบร้อย
๔. มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
๔. มีสารพิษตกค้างสูง
๕. ราคากิโลกรัมละ ๒๕ บาท
๕. ราคากิโลกรัมละ ๘-๑๐ บาท
 
จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล
หรือผู้สนใจต้องการเข้าเยี่ยมชม สอบถามรายละเอียดได้ที่
สมาคมพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน๑๑๐ ถ.เทศบาล ๔ ตำบลในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ๓๒๐๐๐
โทร ๐๘๑-๒๖๕๕๓๕๒ และ ๐๔๔-๕๒๐๕๓๖

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น